สาเหตุตาสองชั้นข้างเดียว พร้อมวิธีแก้ปัญหาที่ต้องรู้

16 ธันวาคม 2025

ชั้นตาไม่เท่ากัน ไม่มั่นใจ แต่งหน้ายาก ทำอย่างไรดี ?

การมีดวงตากลมโตและชั้นตาที่เท่ากัน เป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็ปรารถนา เพราะนอกจากจะส่งผลดีต่อรูปลักษณ์แล้ว ยังช่วยเสริมความมั่นใจและทำให้ใบหน้าดูสดใสมีเสน่ห์อีกด้วย แต่ในขณะเดียวกัน การมีตาสองชั้นข้างเดียว หรือชั้นตาไม่เท่ากัน ยังสร้างความกังวลใจให้กับใครหลายคน ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ แถมเป็นอุปสรรคในการแต่งหน้า ที่สำคัญยังอาจส่งผลกระทบต่อบุคลิกภาพ แล้วทำไมคนเราถึงมีชั้นตาที่ไม่เท่ากัน ? ปัญหานี้แก้ไขได้หรือไม่ ? เรามีคำตอบ

ตาสองชั้นคืออะไร และลักษณะของตาสองชั้นข้างเดียวเป็นอย่างไร ?

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกับคำว่า “ตาสองชั้น” กันก่อน สำหรับภาวะนี้ ลักษณะของดวงตาจะมีรอยพับบริเวณเปลือกตา ทำให้เห็นเป็นเส้นขึ้นมา 1 เส้น ซึ่งเป็นโครงสร้างทางกายวิภาคที่ช่วยให้ดวงตาดูกลมโตและสดใส 

ส่วนภาวะที่เรียกว่า “ตาสองชั้นข้างเดียว” หรือ Uneven Eyelid คือการที่ตาข้างหนึ่งมีชั้นตาที่ชัดเจน แต่ตาอีกข้างหนึ่งเป็นตาชั้นเดียว หรือมีชั้นตาหลบใน ทำให้ดวงตาทั้งสองข้างดูไม่เท่ากันและไม่สมดุล สังเกตเห็นได้ง่ายเมื่อมองตรง

ทั้งนี้ ปัญหาชั้นตาไม่เท่ากันอาจเกิดขึ้นได้ในหลายลักษณะ เช่น ตาข้างหนึ่งเป็นสองชั้นแต่มีขนาดเล็กกว่าอีกข้าง ตาข้างหนึ่งเป็นสองชั้นแต่อีกข้างเป็นตาชั้นเดียว หรือตาข้างหนึ่งมีชั้นตาที่ชัดเจนแต่อีกข้างเป็นชั้นตาหลบใน ซึ่งแต่ละลักษณะก็บ่งบอกถึงสาเหตุที่แตกต่างกัน ส่งผลให้ต้องใช้วิธีแก้ไขที่ต่างกันตามไปด้วย

สาเหตุของอาการชั้นตาไม่เท่ากัน

สำหรับผู้ที่มีปัญหาตาไม่เท่ากัน แล้วต้องการแก้ไขปัญหานี้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงจุด สิ่งแรกที่ควรรู้คือต้นเหตุของอาการคืออะไร โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่พบบ่อยมีดังต่อไปนี้

1. ลักษณะทางพันธุกรรม

บางคนอาจมีโครงสร้างเปลือกตา กล้ามเนื้อตา ขนาดดวงตา และกระดูกเบ้าตาสองข้างไม่เท่ากันตั้งแต่กำเนิด ซึ่งเป็นลักษณะที่สามารถถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรมจากพ่อแม่ จัดเป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดและไม่สามารถป้องกันได้

2. ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis)

ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเกิดจากกล้ามเนื้อตาที่ทำหน้าที่ยกเปลือกตาทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้เปลือกตาข้างใดข้างหนึ่งตกลงมาต่ำกว่าปกติอย่างชัดเจน ส่งผลให้ชั้นตาไม่เท่ากันและในบางรายอาจรบกวนการมองเห็นได้ แบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่

• กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิด เนื่องจากกล้ามเนื้อตาที่ทำหน้าที่ยกเปลือกตาพัฒนาได้ไม่สมบูรณ์
• กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงที่เกิดภายหลัง จากการเสื่อมสภาพของกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อตาได้รับการกระทบกระเทือน และกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงจากโรค

3. การหย่อนคล้อยของผิวหนังตามวัยที่เพิ่มขึ้น

ปัญหานี้มักพบในผู้สูงอายุ โดยเกิดจากปริมาณไขมันและคอลลาเจนใต้ผิวลดลง ทำให้ผิวหนังรอบดวงตาไม่กระชับและเกิดการหย่อนคล้อยสะสมเป็นชั้น ส่งผลให้เปลือกตาดูหนักและบดบังชั้นตาเดิม ทำให้ชั้นตาที่เคยมีอยู่ดูเล็กลงหรือหายไป

4. พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้หลายคนมีตาสองชั้นข้างเดียวโดยไม่รู้ตัว คือพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การขยี้ตาบ่อย ๆ การใช้คอนแท็กต์เลนส์เป็นเวลานาน และการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งล้วนส่งผลให้กล้ามเนื้อรอบดวงตาอ่อนแอและหย่อนคล้อยจนชั้นตาดูไม่เท่ากัน 

5. การผ่าตัดหรือการบาดเจ็บบริเวณดวงตา

โครงสร้างเปลือกตาที่ได้รับความเสียหายจากการผ่าตัดและการศัลยกรรมที่ไม่สมบูรณ์ เช่น มีรอยแผลเป็นที่ดึงรั้งผิวหนัง เกิดภาวะกล้ามเนื้อตาบาดเจ็บ หรือสร้างชั้นตาในระดับความสูงที่ไม่เหมาะสม เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ชั้นตาไม่เท่ากันอย่างเห็นได้ชัด

นอกจากนี้ อุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บบริเวณดวงตาที่รุนแรงก็สามารถส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อได้เช่นกัน ทำให้โครงสร้างผิดรูปและเกิดความไม่สมมาตรของชั้นตา การแก้ไขปัญหานี้จึงต้องอาศัยการผ่าตัดซ้ำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวิเคราะห์และแก้ไขโครงสร้างที่เสียหายได้อย่างถูกต้องและแม่นยำที่สุด

ผลกระทบของการมีตาสองชั้นข้างเดียวในชีวิตประจำวัน

แม้ว่าปัญหาชั้นตาไม่เท่ากันจะไม่ใช่เรื่องร้ายแรง ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ก็ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้หลายด้าน ตั้งแต่ความรู้สึกภายในไปจนถึงปัญหาภายนอกที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน

• ดวงตาที่ดูไม่สมมาตรทำให้แววตาดูไม่สดใส ส่งผลให้หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจในรูปลักษณ์ของตนเอง ซึ่งกระทบต่อบุคลิกภาพและการเข้าสังคมในระยะยาว
• ปัญหาในการแต่งหน้า โดยเฉพาะการเขียนอายไลน์เนอร์และการติดขนตาปลอมที่ทำได้ยากขึ้นเมื่อชั้นตาแต่ละข้างไม่เท่ากัน
• บดบังการมองเห็น ทำให้ทัศนวิสัยด้านบนแคบลง ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในการขับรถ เป็นผลกระทบที่สำคัญในผู้ที่มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง

วิธีแก้ปัญหาตาสองชั้นข้างเดียว ทำตาสองชั้นช่วยได้ไหม ?

การแก้ไขปัญหาตาสองชั้นข้างเดียวอย่างมีประสิทธิภาพ ควรพิจารณาจากระดับความรุนแรงของอาการและสาเหตุที่แท้จริง โดยวิธีที่นิยมใช้โดยทั่วไป มีดังนี้

1. การใช้เทคนิคแต่งหน้าเข้าช่วย

วิธีนี้เป็นทางเลือกแรกที่หลายคนเลือกใช้ เพราะทำได้ง่าย สะดวก และไม่ต้องเจ็บตัว เหมาะสำหรับการแก้ไขปัญหาชั่วคราวและผู้ที่มีปัญหาไม่รุนแรง อีกทั้งยังมีเทคนิคให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเขียนอายไลน์เนอร์ให้หนาขึ้นบริเวณตาข้างที่เป็นชั้นเดียวหรือชั้นตาหลบใน การใช้เทปกาวตาสองชั้นเพื่อสร้างชั้นตาชั่วคราว หรือการติดขนตาปลอมเพื่อยกเปลือกตาให้ดูเปิดกว้างขึ้น

2. การปรับกล้ามเนื้อตาโดยไม่ต้องผ่าตัด

เป็นวิธีที่ช่วยชะลอความหย่อนคล้อยและเสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อรอบดวงตาได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลตัวเองเพื่อป้องกันหรือชะลอการเกิดปัญหาหนังตาตกในอนาคต ประกอบด้วย 2 แนวทางหลัก คือ

• การเบิกตาให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้และค้างไว้ 10 วินาที จากนั้นหลับตาให้สนิทและคลายกล้ามเนื้อ ทำซ้ำ 5-10 ครั้ง
• การใช้ปลายนิ้วกลางและนิ้วนางนวดวนเบา ๆ บริเวณกระดูกเบ้าตา ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้ดี

3. การผ่าตัดทำตาสองชั้น

การทำตาสองชั้นถือเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ถาวรและแม่นยำที่สุด โดยสามารถแก้ไขสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาได้ตรงจุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาชัดเจนและส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน โดยแพทย์จะประเมินโครงสร้างของดวงตาแต่ละข้างอย่างละเอียด เพื่อเลือกเทคนิคการผ่าตัดที่เหมาะสมที่สุด โดยเทคนิคที่ใช้โดยทั่วไป ได้แก่ เทคนิคกรีดยาว แก้ไขภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เทคนิคกรีดสั้น และเทคนิคไม่กรีดแผล (เย็บจุด)

คืนความสดใสและเปล่งประกายให้ดวงตาทั้งสองข้าง รักษาตาสองชั้นไม่เท่ากันด้วยเทคนิคทำตาสองชั้นซ่อนรอยแผล ที่ Bangkok Eye Aesthetics (BEA Clinic) ออกแบบดวงตาและวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล ดำเนินการรักษาทุกขั้นตอนโดยนายแพทย์จิรัช เจตชยานนท์ จักษุแพทย์ผู้มีประสบการณ์ นัดหมายเข้ารับคำปรึกษาฟรีได้ที่ LINE Official @beaclinic หรือโทร. 064-196-3635

ข้อมูลอ้างอิง

• What Are the Various Causes of Uneven Eyelids and How Can I Treat Them?. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 จาก https://www.healthline.com/health/uneven-eyelids 
• What to know about asymmetrical or uneven eyes. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 จาก https://www.medicalnewstoday.com/articles/327051