ศัลยกรรมแก้หางตาตก ซ่อนแผลใต้คิ้ว

ยกหางตาเทคนิคซ่อนแผลใต้คิ้ว

Subbrow lifting

ยกหางตาซ่อนแผลใต้คิ้ว เสริมลุคให้ดูสวยเฉี่ยวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

ภาวะหางตาตก หรือหางตาหย่อนคล้อย คือ การที่หางตาอยู่ต่ำกว่าหัวตา ส่งผลให้ใบหน้าดูเศร้า ไม่สดใส หรือดูง่วงตลอดเวลา  วิธีการแก้หางตาตก ด้วยการผ่าตัดยกหางตาด้วยเทคนิคซ่อนแผลใต้คิ้ว (Subbrow Lifting) เป็นวิธีที่ช่วยแก้ไขปัญหาได้ในระยะยาว อีกทั้งยังช่วยให้ชั้นตาดูชั้นขึ้น และหางตาดูเฉี่ยวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ 

สาเหตุที่ทำให้หางตาตก

หางตาตก เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แม้ว่าโดยมากจะไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันโดยตรง แต่หลายครั้งก็ส่งผลต่อความมั่นใจและบุคลิกภาพ เนื่องจากทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าหรือไม่สดใสอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะพักผ่อนอย่างเพียงพอก็ตาม ซึ่งการที่หางตาตกมีสาเหตุหลัก ๆ ดังต่อไปนี้ 

1. อายุที่เพิ่มขึ้น

เมื่ออายุเพิ่มขึ้น โครงสร้างผิวหนัง กล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อก็เริ่มเสื่อมสภาพ ทำให้ผิวหนังบริเวณหางตาหย่อนลงมา จนเกิดภาวะหางตาตก และลากหนังตาบริเวณเปลือกตาให้ตกลงมา มักพบในผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป 

2. การลดลงของคอลลาเจนและอีลาสติน

เนื่องจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น และการมีพฤติกรรมเสี่ยงอย่างการสูบบุหรี่ รวมถึงการโดนแดดจัดเป็นประจำ 

3. พันธุกรรม

สำหรับบางคนหางตาอาจตกเร็วก่อนวัย ในช่วงอายุ 20-30 ปี ซึ่งเกิดจากโครงสร้างผิวหนังรอบดวงตาที่อ่อนแอจากพันธุกรรม 

4. พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน

ไม่ว่าจะเป็นการขยี้ตาแรง ๆ การใช้สายตานาน ๆ การนอนดึกบ่อย ๆ หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็ส่งผลทำให้เนื้อเยื่อรอบดวงตาเสื่อมเร็วกว่าปกติ

ศัลยกรรมยกหางตาซ่อนแผลใต้คิ้ว (Subbrow Lifting Surgery)

การผ่าตัดยกหางตาซ่อนแผลใต้คิ้ว คือ การผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาหางตาตก หางตาปิด ตาดูเศร้า เนื่องจากมีผิวหนังส่วนเกินหย่อนคล้อยลงมา บางรายอาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็นได้ สามารถพบได้ทั่วไปโดยเฉพาะเมื่อมีอายุมากขึ้น นอกจากนี้การผ่าตัดเทคนิคซ่อนแผลใต้คิ้วยังสามารถทำได้ในกรณีผู้ที่มีตาสองชั้นอยู่แล้ว แต่อยากให้ชั้นตาชัดขึ้น หางตาเฉี่ยวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ 

เทคนิคนี้จักษุแพทย์จะทำการผ่าตัดกรีดและเย็บแผลปิดซ่อนไว้ที่บริเวณแนวขอบคิ้วด้านล่าง โดยความยาวของแผลจะขึ้นอยู่กับการประเมินการรักษาและความต้องการของคนไข้แต่ล่ะบุคคล การผ่าตัดยกหางตาซ่อนแผลใต้คิ้วจะช่วยทำให้ดวงตาดูสดใส ดูอ่อนเยาว์ลง เสริมความมั่นใจ และเพิ่มการมองเห็นดีขึ้น

ข้อดีของการผ่าตัดยกหางตา โดยใช้เทคนิคซ่อนแผลใต้คิ้ว

ปัจจุบันการแก้หางตาตก หรือการยกหนังตาด้วยเทคนิค Subbrow Lifting ไม่เพียงช่วยปรับโครงสร้างเปลือกตาบนให้เข้ารูปมากขึ้น แต่ยังมีข้อดีอีกหลายประการ ดังต่อไปนี้ 

1. ซ่อนแผลได้อย่างแนบเนียน

แผลผ่าตัดจะถูกซ่อนอยู่ใต้แนวขอบคิ้ว ซึ่งเป็นบริเวณที่สามารถอำพรางรอยแผลได้ดี เมื่อแผลสมานและผิวรอบคิ้วฟื้นตัวเต็มที่แล้ว หากไม่ตั้งใจสังเกตจะไม่เห็นรอยแผลอย่างชัดเจน

2. ปรับรูปตาให้ดูยกขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องทำตาสองชั้น

เหมาะสำหรับผู้ที่มีตาสองชั้นอยู่แล้ว อยากให้ชั้นตาชัด หรือปรับตำแหน่งหางตาให้ดูเฉี่ยวขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเป็นลักษณะของ “Foxy Eyes” โดยไม่เปลี่ยนแปลงรูปตาโดยรวมมากนัก 

3. ระยะพักฟื้นสั้น

หลังผ่าตัดสามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ภายในเวลาไม่กี่วัน โดยรอยแดงและบวมจะค่อย ๆ จางและยุบตัวลงภายใน 7-14 วัน 

4. ไม่ต้องวางยาสลบ

เป็นการผ่าตัดเล็กที่ใช้ยาชาเฉพาะที่ ลดความเสี่ยงในการวางยาสลบ และไม่ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวนานหลังการผ่าตัด 
 

BEA

การผ่าตัดยกหางตาซ่อนแผลใต้คิ้วเหมาะกับใคร ?

โดยทั่วไปแล้วการผ่าตัดยกหางตาซ่อนแผลใต้คิ้วเหมาะสำหรับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีความกังวลดังต่อไปนี้

  • หางตาตก หางตาปิด ตาดูเศร้า
  • มีหนังตาส่วนเกิน หนังตาหย่อนคล้อย
  • ชั้นตา 2 ข้างไม่เท่ากัน 
  • ผู้ที่มีตาสองชั้นอยู่แล้ว / ตาสองชั้นหลบใน แต่ต้องการให้ชั้นตาชัดขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการมีหางตาที่เฉี่ยวขึ้น
     

ขั้นตอนการผ่าตัดยกหางตาเทคนิคซ่อนแผลใต้คิ้ว

การผ่าตัดยกหางตาด้วยเทคนิคซ่อนแผลใต้คิ้ว (Subbrow Lifting) เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความละเอียดและความแม่นยำสูง ตั้งแต่การวางแผนก่อนผ่าตัด ไปจนถึงขั้นตอนการเย็บแผลให้กลมกลืนไปกับแนวคิ้ว โดยการผ่าตัดที่ BEA Clinic จะดำเนินการภายใต้แนวคิด “ออกแบบเฉพาะบุคคล” เพื่อให้เหมาะกับลักษณะดวงตาและปัญหาของแต่ละคน โดยแบ่งขั้นตอนออกเป็น 4 ส่วนหลัก ดังนี้

  1. ออกแบบแนวแผลและฉีดยาชาเฉพาะที่ แพทย์จะเริ่มต้นจากการวิเคราะห์รูปตา ความโค้งของแนวคิ้ว ระดับของความหย่อนคล้อย และปริมาณผิวหนังส่วนเกินบริเวณหางตา แล้วทำการออกแบบแนวแผลที่จะกรีดให้สอดรับกับโครงหน้าโดยรวม จากนั้นจะฉีดยาชาเฉพาะที่ พร้อมให้ยาคลายกังวลหากมีความเครียด 
  2. เปิดแผลบริเวณใต้คิ้วและตัดผิวหนังส่วนเกิน เมื่อยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จะทำการเปิดแผลขนาดเล็กบริเวณใต้คิ้วในแนวที่ออกแบบไว้ โดยทั่วไปแผลจะมีลักษณะเรียวยาว ขนานไปกับขอบล่างของคิ้ว จากนั้นจะทำการตัดผิวหนังส่วนเกินที่หย่อนคล้อยลงมาบริเวณหางตาอย่างแม่นยำ เพื่อไม่ให้กระทบต่อกล้ามเนื้อตา
  3. จัดเรียงชั้นเนื้อเยื่อและเย็บแผลอย่างประณีต จากนั้นจึงเย็บปิดแผลโดยใช้ไหมเย็บขนาดเล็ก รอยแผลจะซ่อนอยู่ใต้แนวขอบคิ้ว ซึ่งเป็นบริเวณที่สามารถพรางรอยได้อย่างแนบเนียน
  4. ผลลัพธ์หลังการผ่าตัด เมื่อแผลหายดีแล้ว จะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของหางตาที่ดูยกขึ้น ชั้นตาดูชัดขึ้น และรูปตาดูเปิดมากขึ้น โดยไม่เปลี่ยนลักษณะของดวงตาเดิม ผลลัพธ์ของการผ่าตัดจะเริ่มเห็นได้ตั้งแต่ 1-2 สัปดาห์แรก และจะยิ่งชัดเจนมากขึ้นเมื่ออาการบวมช้ำยุบลงในช่วง 1-3 เดือน 

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดแก้หางตาตก

เพื่อให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่น รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว ควรปฏิบัติตามแนวทางดังต่อไปนี้ 

  • แจ้งประวัติสุขภาพให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด โดยเฉพาะหากมีโรคประจำตัวอย่าง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ภูมิแพ้ ประวัติการแพ้ยาต่าง ๆ เพื่อให้ทีมแพทย์สามารถวางแผนและปรับแนวทางการรักษาให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น 
  • หยุดรับประทานยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด อย่างเช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
  • งดแต่งหน้าหรือทาครีมบำรุงผิวบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะรอบคิ้วและดวงตา เพื่อป้องกันการติดเชื้อ รวมถึงถอดคอนแทคเลนส์ก่อนการผ่าตัด
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ ก่อนผ่าตัดประมาณ 2-3 วัน 
  • พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด และดื่มน้ำให้เพียงพอ
  • ไม่ควรขับขี่รถยนต์ด้วยตัวเองหลังการผ่าตัด 
     

การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดยกหางตาด้วยเทคนิคซ่อนแผลใต้คิ้ว

หลังจากเข้ารับการผ่าตัดแก้หางตาตก การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้อาการฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน โดยมีแนวทางการปฏิบัติดังต่อไปนี้ 

  • งดแต่งหน้า ไม่ใส่คอนแทคเลนส์ และงดใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวรอบแผลในช่วง 1 สัปดาห์หลังการผ่าตัด เพราะอาจจะเสี่ยงติดเชื้อได้ และควรล้างหน้าเบา ๆ ใช้ผ้าสะอาดซับแทนการเช็ดแรง ๆ
  • หลีกเลี่ยงการขยี้ตาหรือสัมผัสบริเวณแผล อาจจะทำให้แผลปริหรือไหมเย็บเคลื่อนได้  
  • ไม่ออกกำลังกายหนัก ๆ หรือเล่นกีฬาทางน้ำในช่วง 1 เดือนหลังผ่าตัด
  • งดการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในช่วง 1 เดือนหลังจากผ่าตัด
  • นอนหลับโดยใช้หมอนสูงใน 3 วันแรกหลังผ่าตัด เพื่อช่วยลดอาการบวมและทำให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น
  • งดอาหารหมักดองและสัตว์มีกระดอง ในช่วงเดือนแรกหลังการผ่าตัด 
  • ประคบเย็นในช่วง 48 ชั่วโมงแรก หลังผ่าตัดอาจจะมีอาการบวมเล็กน้อยรอบดวงตาและคิ้ว ให้ประคบเย็นเบา ๆ รอบดวงตา โดยหลีกเลี่ยงการกดโดยตรงบนแผล ควรทำในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด
  • รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะยาฆ่าเชื้อ ไม่ควรหยุดยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ หากมีอาการแพ้หรือผิดปกติ ควรรีบแจ้งแพทย์ทันที 
  • สวมใส่แว่นตากันแดด เมื่อต้องอยู่กลางแจ้ง
  • เข้ามาตรวจและตัดไหมตามวันที่แพทย์นัด ซึ่งจะช่วยให้แผลเรียบเนียน และลดโอกาสการเกิดแผลคีลอยด์ 

สิ่งที่ควรรู้เมื่อผ่าตัดยกหางตาเทคนิคซ่อนแผลใต้คิ้ว :

ในการผ่าตัดยกหางตาเทคนิคซ่อนแผลใต้คิ้วรอยแผลจากการผ่าตัดจะถูกซ่อนอยู่บริเวณแนวขอบคิ้วด้านล่าง อาจทำให้เกิดอาการปวด-บวมช้ำบริเวณรอบดวงตาได้ โดยเฉพาะในช่วง 1-3 วันแรกหลังรับการผ่าตัด ซึ่งหากรับประทานยาและปฏิบัติตัวตามที่แพทย์สั่ง อาการข้างเคียงดังกล่าวจะดีขึ้นได้เอง รวมถึงรอยแผลเป็นจะค่อย ๆ จางลง

ทั้งนี้ผลลัพธ์สุดท้ายจะชัดเจนหลังผ่าตัด 3-6 เดือนขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และถึงแม้ว่าร่างกายของเราจะยังคงเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ แต่การผ่าตัดยกหางตาเทคนิคซ่อนแผลใต้คิ้วจะมอบผลลัพธ์ที่สวยงามเป็นธรรมชาติได้อย่างยาวนาน

โดยปกติแล้วภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดยกหางตาเทคนิคซ่อนแผลใต้คิ้วเกิดขึ้นได้น้อยมาก โดยเฉพาะเมื่อทำกับแพทย์เฉพาะทางจักษุที่มีประสบการณ์ ซึ่งภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดที่อาจพบได้และควรระวังคือ

  • ตา 2 ข้างไม่เท่ากัน 
  • อาการชารอบแผลผ่าตัด 
  • เลือดออกตามรอยแผล 
  • ติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัด 
  • ต้องทำการผ่าตัดใหม่
BEA
BEA

Before & After

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

Before
After
Before
After

หัตถการที่เข้ากันได้ดี

BEA Clinic

Bangkok Eye Aesthetics “ให้ดวงตาช่วยสื่อสารตัวตนของคุณ”

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม