ตาปรือแก้ได้ กับ 5 วิธีแก้ตาปรือง่าย ๆ คืนความสดใสให้ดวงตา
16 ธันวาคม 2025
ผู้เขียน
นพ.จิรัช เจตชยานนท์
ประวัติ
- จบการศึกษาระดับปริญญาตรีแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
- วุฒิบัตรสาขาจักษุวิทยา มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- ประกาศนียบัตรอบรมขั้นสูงด้านการทำตาสองชั้น ภายใต้การดูแลของ นพ.เจียงอริยวงศ์ ศัลยแพทย์ตกแต่ง และเสริมสร้างใบหน้า
- ประกาศนียบัตรอบรมขั้นสูงด้านการทำตาสองชั้น จากโครงการ International Fellowship in Advanced Aesthetic Science (IFAAS) ประเทศเกาหลีใต้
ตาปรือเกิดจากอะไร ? 5 วิธีแก้ตาปรือให้กลับมาสดใส
อาการ “ตาปรือ” ไม่ได้เกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอเพียงอย่างเดียว แต่อาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพดวงตาที่ซ่อนอยู่ เช่น ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis) หรือหนังตาตก ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงทั้งด้านบุคลิกภาพ ความมั่นใจ หรือแม้แต่การมองเห็นในชีวิตประจำวัน
มาทำความรู้จักกับอาการตาปรือให้ลึกขึ้น ตั้งแต่สาเหตุ สัญญาณที่ควรสังเกต และ 5 วิธีแก้ตาปรือแบบง่าย ๆ รวมถึงแนวทางการรักษาที่ตรงจุดโดยแพทย์เฉพาะทาง เพื่อช่วยให้คุณสามารถดูแลดวงตาได้อย่างยั่งยืน
ตาปรือคืออะไร ?
“ตาปรือ” หมายถึงอาการที่เปลือกตาบนหย่อนคล้อยหรือตกลงมาต่ำกว่าปกติจนบดบังบริเวณตาดำบางส่วน ทำให้ดวงตาดูง่วงนอน ไม่สดใส หรือดูเล็กกว่าปกติ อาจเกิดขึ้นเพียงข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง ทำให้ตาทั้งสองข้างดูไม่เท่ากันได้ และหากอาการรุนแรงก็อาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็นและคุณภาพชีวิตประจำวันได้
สาเหตุของภาวะตาปรือ
อาการตาปรือเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นอายุ พฤติกรรมการใช้ชีวิต หรือโรคทางระบบประสาท โดยสาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่
- อายุที่มากขึ้น เมื่อเข้าสู่วัยกลางคนหรือวัยสูงอายุ กล้ามเนื้อที่ช่วยยกเปลือกตาจะเริ่มอ่อนแรง ทำให้เปลือกตาบนหย่อนคล้อยและปิดทับดวงตา
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การใส่คอนแท็กต์เลนส์เป็นเวลานาน ขยี้ตาบ่อย ๆ หรือใช้งานสายตาหนัก ทำให้กล้ามเนื้อรอบดวงตาเสื่อมเร็วขึ้น
- พันธุกรรมหรือความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด บางคนมีภาวะตาปรือตั้งแต่เกิดจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงหรือเส้นประสาทที่ควบคุมการลืมตาทำงานผิดปกติ
- โรคหรือภาวะทางระบบประสาท เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myasthenia Gravis) หรือโรคเกี่ยวกับเส้นประสาทตา ทำให้เปลือกตาเปิดได้ไม่สุด
วิธีสังเกตอาการตาปรือ
แม้บางครั้งอาการตาปรือจะสังเกตได้ด้วยตนเอง แต่ก็มีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนให้รีบไปปรึกษาแพทย์ เช่น
- เปลือกตาบนตกลงมาจนบดบังตาดำ
- ดวงตาดูง่วงนอนหรือไม่สามารถลืมตาได้สุด
- ตาสองข้างไม่เท่ากัน เห็นชั้นตาซ้อนหรือผิดรูป
- การมองเห็นแคบลง โดยเฉพาะช่วงเวลาที่รู้สึกเหนื่อยล้า
- ต้องเลิกหน้าผากหรือยกคิ้วบ่อย ๆ เพื่อช่วยให้มองเห็นชัดขึ้น
5 วิธีแก้ตาปรือง่าย ๆ ให้ดวงตากลับมาสดใสอีกครั้ง
อาการตาปรือสามารถแก้ไขได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันและการผ่าตัด เพื่อช่วยให้ดวงตากลับมาสดใสและมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
1. พักสายตาเป็นระยะ
การใช้สายตาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจทำให้กล้ามเนื้อตาเมื่อยล้าได้ง่าย จึงควรพักสายตาเป็นระยะโดยใช้กฎ “20-20-20” คือ ทุก 20 นาที ให้พักสายตา 20 วินาที โดยมองไปยังวัตถุที่อยู่ไกลออกไป 20 ฟุต หรือประมาณ 6 เมตร เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อตาได้ผ่อนคลาย
2. นอนหลับให้เพียงพอ
การนอนหลับอย่างมีคุณภาพอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายและดวงตาได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เพราะหากพักผ่อนไม่เพียงพอ นอกจากจะทำให้ตาดูอิดโรยแล้ว ยังอาจส่งผลให้กล้ามเนื้อตาทำงานได้ไม่เต็มที่อีกด้วย
3. ประคบเย็นและนวดเบา ๆ รอบดวงตา
การใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นแล้วนำมาประคบเบา ๆ บริเวณรอบดวงตาประมาณ 5-10 นาที จะช่วยลดอาการบวมและทำให้ดวงตารู้สึกสดชื่นขึ้น นอกจากนี้ การนวดบริเวณใต้คิ้วและเปลือกตาบนอย่างเบามือ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและผ่อนคลายกล้ามเนื้อรอบดวงตาได้
4. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง
เพื่อป้องกันไม่ให้อาการตาปรือแย่ลง ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายดวงตา เช่น การขยี้ตาบ่อย ๆ และการใส่คอนแท็กต์เลนส์เป็นเวลานานเกินไป นอกจากนี้ การปรับแสงหน้าจอให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมก็ช่วยลดความเครียดของดวงตาได้เช่นกัน
5. เข้ารับการผ่าตัดแก้ไขปัญหาตาปรือกับจักษุแพทย์เฉพาะทาง
หากอาการตาปรือมีสาเหตุมาจากหนังตาตกหรือภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง การผ่าตัดถือเป็นวิธีที่ตรงจุดและได้ผลที่สุด โดยจักษุแพทย์จะกรีดเปิดแผลเล็ก ๆ บริเวณเปลือกตาบนเพื่อยกกระชับกล้ามเนื้อที่อ่อนแรง ช่วยให้เปลือกตายกสูงขึ้น ดวงตาดูสดใสขึ้น การมองเห็นกว้างขึ้น และยังได้ชั้นตาที่สวยงามและดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย

หากคุณมีอาการหนังตาตก หรือกำลังมองหาวิธีแก้ตาปรือ Bangkok Eye Aesthetics (BEA Clinic) คลินิกศัลยกรรมตาในย่านอโศก พร้อมให้บริการดูแลปัญหาดวงตาด้วยการผ่าตัดกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ดำเนินการรักษาทุกขั้นตอนโดยนายแพทย์จิรัช เจตชยานนท์ จักษุแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ทุกเคสจะได้รับการออกแบบและแก้ไขปัญหาเฉพาะบุคคล พร้อมการติดตามผลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คุณได้ดวงตาที่สวยงาม สดใส และมีประสิทธิภาพการมองเห็นที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน นัดหมายเข้ารับคำปรึกษาฟรีได้ที่ LINE Official @beaclinic หรือโทร. 064-196-3635
ข้อมูลอ้างอิง
- Ptosis (Droopy Eyelid). สืบค้นเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 จาก https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/14418-ptosis-droopy-eyelid